หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดเมื่อองค์กรต้องการติดตั้งระบบประชุมทางไกลคือ “ชุดประชุมทางไกล ราคาเท่าไหร่?” ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก เพราะไม่มีราคาที่เป็นมาตรฐานตายตัว ราคาของชุดอุปกรณ์เหล่านี้มีความหลากหลายอย่างมาก ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลายแสนบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง คุณภาพของอุปกรณ์ และฟังก์ชันการใช้งาน
บทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของงบประมาณ โดยแบ่งตามขนาดของห้องประชุม เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสม
ราคาชุดประชุมทางไกล แบ่งตามขนาดการใช้งาน
เราสามารถแบ่งชุดประชุมทางไกลออกเป็น 4 ระดับหลักๆ ดังนี้:
1. ชุดเริ่มต้นสำหรับใช้งานส่วนตัว / Home Office
- เหมาะสำหรับ: การใช้งานคนเดียวที่โต๊ะทำงาน, ผู้ที่ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ที่ต้องการคุณภาพของภาพและเสียงที่ดีกว่ากล้องติดโน้ตบุ๊กทั่วไป
- อุปกรณ์หลัก:
- เว็บแคมคุณภาพสูง (Full HD 1080p)
- หูฟังพร้อมไมโครโฟน (Headset) หรือไมโครโฟน USB แบบตั้งโต๊ะ
- ช่วงราคาโดยประมาณ: 2,000 – 7,000 บาท
2. ชุดสำหรับห้องประชุมขนาดเล็ก / Huddle Room (รองรับ 2-4 คน)
- เหมาะสำหรับ: ห้องประชุมขนาดเล็กสำหรับทีมงาน 2-4 คน ใช้ในการประชุมกลุ่มย่อย ระดมสมอง หรือประชุมด่วน
- อุปกรณ์หลัก:
- All-in-one Video Bar: อุปกรณ์ที่รวมกล้อง, ไมโครโฟน, และลำโพงไว้ในชิ้นเดียว ติดตั้งง่ายและไม่เปลืองพื้นที่
- แบรนด์ยอดนิยมในกลุ่มนี้: Logitech MeetUp, Poly Studio R30, Yealink UVC40
- ช่วงราคาโดยประมาณ: 15,000 – 50,000 บาท
3. ชุดสำหรับห้องประชุมขนาดกลาง (รองรับ 5-10 คน)
- เหมาะสำหรับ: ห้องประชุมมาตรฐานขององค์กรส่วนใหญ่ ที่ใช้สำหรับการประชุมทีม, นำเสนองานให้ลูกค้า, หรือประชุมระหว่างแผนก
- อุปกรณ์หลัก:
- กล้อง PTZ (Pan-Tilt-Zoom) ที่สามารถหมุนและซูมได้ เพื่อจับภาพผู้พูดได้ทั่วห้อง
- ระบบไมโครโฟนแบบแยกส่วน (Microphone Pods) ที่สามารถวางกระจายบนโต๊ะเพื่อรับเสียงได้อย่างทั่วถึง
- ลำโพงคุณภาพสูง
- อาจมี Mini PC (เช่น Intel NUC) สำหรับรันซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ
- แบรนด์ยอดนิยมในกลุ่มนี้: Logitech Rally Bar Mini, Poly Studio, Yealink MVC Series
- ช่วงราคาโดยประมาณ: 60,000 – 150,000 บาท
4. ชุดสำหรับห้องประชุมขนาดใหญ่ / Boardroom (รองรับ 10+ คน)
- เหมาะสำหรับ: ห้องประชุมผู้บริหาร, ห้องประชุมขนาดใหญ่, หรือห้องอบรม ที่ต้องการคุณภาพระดับสูงสุดและฟังก์ชันการควบคุมที่ซับซ้อน
- อุปกรณ์หลัก:
- กล้อง PTZ คุณภาพสูง (อาจมีมากกว่า 1 ตัว) พร้อมระบบติดตามผู้พูดอัตโนมัติ (Speaker Tracking)
- ระบบไมโครโฟนติดเพดาน (Ceiling Mic) หรือ Mic Pods จำนวนมาก
- ระบบเสียงที่ออกแบบมาสำหรับห้องโดยเฉพาะ
- แผงควบคุมแบบสัมผัส (Touch Control Panel) สำหรับจัดการการประชุม
- อุปกรณ์ประมวลผล (Codec) ประสิทธิภาพสูง
- แบรนด์ยอดนิยมในกลุ่มนี้: Logitech Rally Plus, Cisco Room Kit Series, Poly G7500
- ช่วงราคาโดยประมาณ: 200,000 – 500,000+ บาท (ราคาสามารถสูงขึ้นได้อีกตามความซับซ้อนของระบบ)
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคา
- แบรนด์: แบรนด์ระดับ Enterprise เช่น Cisco หรือ Poly มักมีราคาสูงกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความน่าเชื่อถือและฟีเจอร์ระดับสูง ในขณะที่ Logitech หรือ Yealink จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายกว่า
- ฟีเจอร์ AI: ระบบที่มี AI ช่วยจัดเฟรมภาพอัตโนมัติ (Auto-framing) หรือติดตามผู้พูด (Speaker Tracking) จะมีราคาสูงกว่า
- ค่าติดตั้งและบริการ: การติดตั้งในห้องประชุมขนาดใหญ่มักต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์: ราคาข้างต้นส่วนใหญ่เป็นราคาฮาร์ดแวร์ ยังไม่รวมค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์รายปี เช่น Zoom Rooms หรือ Microsoft Teams Rooms
บทสรุป
การเลือกชุดประชุมทางไกลควรเริ่มต้นจากการ “ประเมินขนาดห้องและลักษณะการใช้งาน” เป็นอันดับแรก จากนั้นจึงกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม การลงทุนในชุดอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับความต้องการ จะช่วยยกระดับการสื่อสารขององค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจในระยะยาว